เที่ยวขุนตาล 3 วัน 2 คืน ทริปหิวข้าวพิชิตยอด ย.4



เที่ยวขุนตาล 3 วัน 2 คืน ทริปหิวข้าวพิชิต ย.4




          เรื่องมันมีอยู่ว่า พอวันหยุดยาวมา อาการอยากเที่ยวมันก็เลยกำเริบอีกแล้ว คราวนี้เราปักหมุดกันไปที่ "อุทยานแห่งชาติดอยขุนตาล" ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อำเภอแม่ทา จังหวัดลำพูน และอำเภอห้างฉัตร อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง


          ในการจะเดินทางไปยังดอยขุนตาลนั้น เส้นทางเดียวที่สามารถผ่านไปได้ง่าย ก็คือ การนั่งรถไฟสายกรุงเทพ - เชียงใหม่ โดยที่รถไฟนั้นจะจอดที่สถานีขุนตาล ที่มีจุดแลนด์มาร์คโดดเด่น คือ อุโมงค์รถไฟที่ยาวที่สุดในประเทศไทย 
          หลังจากที่หาข้อมูลเส้นทางและวางแผนการเดินทางที่จะไปดอยขุนตาลแล้วนั้น เช้าวันที่สดใสของวันก็ไม่เหมือนกับที่วาดไว้ เพราะสายฝนตกพรำๆกันตั้งแต่เช้าเลยจ้า 


ในเมื่อเก็บกระเป๋าพร้อมเดินทางแล้ว ถึงแม้ว่าท้องฟ้าจะไม่เป็นใจกับสายฝนโปรยปราย ก็ต้องลุยต่อจ้า 





          เรานั่งวินจากบ้านเพื่อ ฝ่าสายฝนพรำๆ ไปหาเพื่อนยังจุดที่นัดกันไว้ สภาพสาวน้อยตัวดำกับร่มเก่าๆคู่ใจ ฝ่าสายฝนกับพี่วินทรงลุง แง๊นนนน





          ก่อนที่จะเดินทางไกลกัน ก็ต้องเติมท้องกันก่อนจ้า แวะ Mc สั่งของกิน อิ่มแล้วก็ไปกันต่อ ปลายทางแรก สถานีรถไฟดอนเมือง เราจะไปซื้อตั๋วรถไฟกัน





          ถึงดอนเมืองแล้วจ้า ส่วนเส้นทางการวิ่งรถนั้นช่วงนั้น (ปี2563) การเดินรถไฟยังเป็นแบบเดิม ไม่ได้ใช้เส้นทางของปัจจุบัน (ปี2566) ที่วิ่งข้างบน และได้ตั๋วรถไฟมากันแล้ว  รถไฟชั้น 2 สุดคราสสิค บชท.48  ราคาคนละ 361 บาท กรุงเทพ-ขุนตาล จำนวน 2ที่นั่งก็พร้อมเรียบร้อยแล้ว




          มาถ่ายรูปแก้เซ็ง เมื่อฝนที่ตกไปช่วงเช้า เริ่มเบาลง พื้นมีเฉอะแชะบ้าง แต่ไม่เป็นอุปสรรค กับฉากหลังที่คลาสสิคแบบเส้นทางรถไฟ ในช่วงเวลาที่รถไฟมา เที่ยวเดินรถ 14.30 การเดินทางของจริงต่อจากนี้กำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว 




          ถึงเวลารถไฟมา ก็ไปประจำที่นั่งที่จองไว้ ผู้คนมากมายที่โดยสารมาด้วย เริ่มนั่งประจำที่ตัวเอง และช่วงนั้นยังอยู่ในช่วงการระบาดของโควิด ยังคงต้องใส่แมสเพื่อป้องกันการแพร่กระจาย แต่โดยรวมแล้วการเริ่มต้นได้ไปเที่ยว การเดินทาง ไม่ใช่อุปสรรคเลย เพราะชอบบรรยากาศแบบนี้ เวลาได้นั่งรถไฟ อารมณ์เหมือนนั่งรถโดยสารทั่วไปแต่ชอบที่มีสายลมผ่านเข้ามา เย็นสดชื่น ได้รับทั้งกลิ่นดิน กลิ่นหญ้าที่วิ่งผ่าน หรือแม้กระทั้งกลิ่นของเล้าหมู หรือของไก่ย่างร้านข้างทาง 






          พอนั่งรถไฟนานๆ มันก็เริ่มเบื่อ วิวข้างทางก็เปลี่ยนไปเรื่อยๆ ผ่านมา 3-4 จังหวัดแล้ว แต่ที่ไม่เปลี่ยนเลยคือ เหล่าแม่ค้าพ่อค้าที่ขึ้นมาขายของตลอดทาง หิวตอนไหนเรียกได้เลย มันสะดวกตรงนี้ล่ะ  นั่งๆทนตัวเหนียวไปบ้าง เดินถ่ายรูปเล่นตามทางเชื่อมของแต่ละโบกี้บ้าง แก้เมื่อยย 
          





          พอฟ้าเริ่มมืด แต่ในโบกี้รถไฟไม่เคยมืดเลย ไฟสว่างมาก นั่งหลับปรับท่าปรับทางตลอดค่ำคืน  จนประมาณ ตี 3 ถึงสถานีปลายทาง ดอยขุนตาล แต่ด้วยความที่ว่า มาเที่ยวขุนตาลและแม่เราก็อยู่อีกอำเภอในจังหวัด เลยขอพี่เจ้าหน้าที่ นั่งต่อไปอีกสถานีหนึ่งได้มั้ย มีค่าใช้จ่ายเพิ่มหรือป่าว และพี่เจ้าหน้าที่ก็ใจดี ให้นั่งไป ถ้าต่อไปอีกก็จะถึงสถานีรถไฟลำพูนแล้ว
        



มาถึงสถานีรถไฟลำฑุนแล้วจ้า ตอนนั้นเป็นเวลาประมาณ ตี 4 กว่าๆ เดินลงมาด้วยอาการง่วงนอนนิดๆ จากนั้นก็ไปสอบถามเส้นทางกับพี่เจ้าหน้าที่ในสถานี ว่าสามารถออกจากสถานีไปเพื่อหารถสองแถวเพื่อต่อรอเข้าบ้านแม่ไกเจากที่ไหน และด้วยพี่เจ้าหน้าที่คนนั้นเป็นคนอาสารับนักเดินทางทั้งหลายออกไปยังจุดจอดรถสองแถว แถวๆลานวัดเจ้าแม่ มีค่าสินน้ำใจออกมาส่งคนละ 50 บาทกับเพื่อนและผู้ที่นั่งร่วมทางมาด้วยอีก 2 คน  ถ้าพี่เค้าไม่อาสาออกมาส่ง เรากับเพื่อนคงได้นั่งรอยันเช้าแน่ๆ






          ช่วงที่รอก็แชะภาพกับรถสองแถวในตำนาน เพราะเส้นทางสาย ลี้-ลำพูน มีลุงๆสองแถวเนี่ยละคะที่วิ่งรับผู้โดยสารเข้าอำเภอเมือง เป็นเส้นทางระยะยาวมากนะ ถ้านั่งกลับถึงปางทางหมู่บ้านแม่ที่สองแถวผ่าน ก็ใช้เวลาประมาณ 1-2 ชั่วโมง แต่ก็แล้วแต่การขับของลุงสองแถวด้วยแหละ 
ระหว่างไปนั่งรถรถสองแถวคนเต็ม ตอนนี้เวลาก็ปาไปประมาณ ตี5 แล้ว ฟ้าจะสว่างแล้วจ้า พี่ๆสาวนิคม                 โรงงาน พี่ๆแม่บ้านโรงบาล ทยอยขึ้นรถ พอเต็มก็ออกเดินทางได้ ใจเราอยากกลับไปนอนเอ็นหลังสักแปบแล้วค่อยย้อนกลับไปขุนตาลอีกที  
























 

ความคิดเห็น